หลับไม่ตื่น

od2504's picture
1077
posts

MacBook 2008 ของผม 2-3 วันมานี้ หลับ (Sleep) แล้วไม่ยอมตื่น cursor ไม่ปรากฏบนจอ และไม่ตอบสนองแป้นพิมพ์ใดใด
บางครั้งจอมืดไป ไม่กระดุกกระดิก ต้องปิดเครื่องอย่างเดียว

ท่านผู้รู้กรุณาวิเคราะห์อาการ และทางแก้ไขให้ด้วยครับ
ขอบคุณครับ

mong's picture
39
posts

ปกติ ผมยังไม่เคยเป็นกับ MBP

ปกติ ผมยังไม่เคยเป็นกับ MBP นะครับ แต่ถ้าnotebook หรือคอมทั่วไปที่เคยเป็น ผมจะเปิดฝา เอาเครื่องดูดฝุ่นดูด กับถอดการ์ดจอ(ถ้าถอดได้) กับแรมมาดูดหรือเป่าฝุ่น ก็หายนะครับ

#1
ikok's picture
10285
posts

ไม่ทราบว่า

หลับไปนานแค่ไหนบ้างครับ?

บางทีเครื่องผมก็เป็น แต่ว่าเป็นเฉพาะหลังจากหลับนาน ๆ หลายชั่วโมง แล้วก็เป็นไม่ทุกครั้งครับ (นาน ๆ จะเป็นสักครั้ง) ผมเลยไม่ทราบเหมือนกันครับว่าจะแก้อย่างไร - -

อาจารย์ลอง rest SMC ดูนะครับ

http://support.apple.com/kb/ht3964

#2
od2504's picture
1077
posts

เป็นทุกครั้งที่ปล่อยให้หลับ

เป็นทุกครั้งที่ปล่อยให้หลับ หรือปิดฝาเลยครับ
ผมเคยลองปิดฝา ประมาณไม่ถึงนาที แล้วเปิดฝาก็ไม่ตื่น
ตอนนี้เลยต้องปรับให้ energy saver เป็น Never ครับ

#3
minemind's picture
3876
posts

ผมว่ามันเป็น bug ของ OS

ผมว่ามันเป็น bug ของ OS น่ะครับ เป็นตั้งแต่ 10.7 เป็นต้นมา

ใน 10.5 และ 10.6 อาการแบบนี้ผมไม่เคยเกิดขึ้นเลยสักครั้งครับ

#4
pippo's picture
2469
posts

MBP 2010 ของผม

ถอด DVD ออกใส่ SSD 128 GB แล้วลง OS X 10.7.5 Lion ก็เป็นนะครับ
แต่อาการคือถ้าเครื่องยังไม่ Sleep แล้วไปพับหน้าจอลงเพื่อ Sleep จะปลุกไม่ตื่นเหมือนกันครับ
ต้องสั่ง Sleep ก่อน ค่อยพับหน้าจอถึงจะปลุกตื่น ตอนแรกผมยังเข้าใจว่า เป็นเพราะใช้ SSD แน่ๆ
อย่างน้องต่ายว่า ตอนเป็น OS X 10.6.8 Snow Leopard ปัญหานี้ไม่มีครับ

#5
od2504's picture
1077
posts

เบื้องต้นได้ลอง reset SMC

เบื้องต้นได้ลอง reset SMC แล้ว อาการดังกล่าวหายไปแล้วครับ

เครื่องที่ใช้นี่ก็เก่ามาก (Late 2008) รู้สึกว่าคงได้เวลาต้องเปลี่ยนใหม่แล้วกระมัง
จึงฝากถามเลยว่า ปัจจัยอะไรบ้างครับ ที่จะพิจารณาได้ว่าเข้าข่าย "ต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่" ได้แล้ว

รู้สึกว่า ระยะหลังๆ apple เล่นอะไรแปลกๆ Keynote ที่เคยใช้ปกติ ก็เปลี่ยนไปให้อึดอัด อืดลงไป และไม่คล่องตัว
คิดว่าจะรู้สึกไม่ดีเฉพาะกับ iOS ตอนนี้สำนึกว่าแม้ OS X ก็ไม่พ้น

ไม่แน่ใจว่า ท่านจะเอาใจฝ่าย Windows จนลืมความป็น Mac ไปหรือเปล่า

#6
minemind's picture
3876
posts

เพราะว่า mac นั้นช้ามาแต่ไหนแต่ไร

ผมมีความคิดแบบนี้นะครับกรณีที่จะ Up Spec หรือจะเปลี่ยนเครื่อง กรณีนี้ขอแนะนำตั้งเครื่อง Mac Alunium Late 2008 ขึ้นไปนะครับ
OS Version 10.7-10.9 Cpu Core 2 Duo และ Ram 4gb
1 ความต้องการใช้งานพื้นฐาน ตอบสนองได้ไม่ดีพอ
- หากว่ามีการเปิดเครื่องได้ค่อนข้างช้า และเมื่อเปิดโปรแกรม ใช้งานแล้วรู้สึกอืดๆ หรือค้าง กรณีนี้ให้ Upgrade Ram ให้เป็น 8gb จะช่วยให้เครื่องทำงานได้ smooth ขึ้นมาหน่อยครับ แต่ปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้คือ การเล่ย ไฟล์ video ขนาดใหญ่ที่ 720P - 1080P ในกรณีที่มีขนาดใหญ่ตั้งแต่ 4 gb จะไม่ค่อยมีผลครับสามารถเปิดเล่นได้ปกติ แต่จะมีปัญหากับไฟล์ที่มีขนาดมากกว่า 4gb เครื่องจะ load นานและเล่นไฟล์กระตุก เป็นเพราะการ์ดจอที่เป็น onboard ครับ และการเล่น video youtube หรือ web flash html5 จะค่อยข้างกระตุกเล็กน้อยถึงมาก ถ้ารู้สึกไม่โอเค แนะนำให้เปลี่ยนเครื่องใหม่ครับ

2 ไม่สามารถตอบสนองการทำงานของโปรแกรมเฉพาะทาง (เปิดแล้วค้าง)
ในส่วนของตัวโปรแกรม เช่น การทำ graphic หรือการตัดต่อ ตรงนี้จะใช้เกี่ยวกับ cpu ram และ hdd ครับ ถ้าเกิดว่าเพิ่ม ram ไป 8gb แล้วมีปัญหาว่ายังช้าอยู่บ้าง ก็ให้เปลี่ยน hdd ไปใช้ 7200rpm หรือเปลี่ยนไปใช้ ssd แทน จะช่วยให้ได้ความเร็วเพิ่มในการเรียกใช้งานได้มากขึ้นมาพอสมควร ดุจาก read หรือ write ที่ mainboard อ่านได้ครับ แต่ไม่ได้แก้ปัญหาในระหว่างที่แก้ไขงานนะครับ เพราะถ้าเป็นการแก้ใขหรือใช้ไฟล์ขนาดใหญ่ก็กระตุกและค้างเหมือนเดิม ส่วนนี้เกี่ยวข้องกับการ์ดจอครับ

ทำไมถึงมีส่วนเกี่ยวข้องกับการ์ดจอเยอะ ถ้าผมจำไม่ผิดที่ไปดูมา การ์ดจอบางรุ่นที่เป็น share with ram เค้า share มาได้สุงสุด 1gb แต่ตัว chip ที่ใช้นั้นไม่ได้มี spec ที่สูงพอที่จะทำให้เล่นหรือทำงานได้ราบรื่น ตรงนี้ถ้าไม่ค่อยโอเค ก็ควรจะเปลี่ยนเครื่องครับหากมีความต้องการใช้งานแบบเฉพาะทาง

เครื่องที่ผมซื้อด้วยราคาและ spec ผมเข้าใจมาตลอดว่ามันเป็นเครื่องที่พอใช้งานได้ครับ เพราะ spec ต่ำมาก เครื่องต่อไปที่จะซื้อมาใช้ทำงานต้องเป็นเครื่องที่ใช้งานได้ ใช้งานได้หมดตามความต้องการของผม เครื่องจะต้องมี spec ที่แรงพอสมควรและคงต้องเป็น cto ด้วยซ้ำครัจ

#7
od2504's picture
1077
posts

ขอบคุณครับ

ทราบว่า Spec นี้สูงสุด up ไม่ขึ้นกว่านี้แล้วครับ

Screen_Shot_2557-03-29_at_15.06.30.png
#8
ikok's picture
10285
posts

ตอบครับ

จึงฝากถามเลยว่า ปัจจัยอะไรบ้างครับ ที่จะพิจารณาได้ว่าเข้าข่าย "ต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่" ได้แล้ว

สำหรับผมเป็นแบบนี้ครับ

ปรกติแล้ว วงการ IT มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลาครับ software กับ hardware มักจะไปด้วยกัน ส่วนใหญ่แล้ว software เปลี่ยนให้ดีขึ้นทุกปี (และโปรแกรมใหม่ ๆ ก็กินทรัพยากรเครื่องมากขึ้นไปด้วย เพราะตอนออกมา ก็มักจะเอา hardware ของปีนั้น ๆ เป็นเกณฑ์ หรือไล่ย้อนหลังลงไปไม่กี่ปีครับ)

จากเหตุผลข้างต้น ถ้าเรายังใช้เครื่องเดิม แต่อัพโปรแกรมเวอร์ชั่นใหม่อยู่เรื่อย ๆ มันจะเป็นทำนองว่า โปรแกรมที่ใช้ จะเข้าถึงข้อจำกัดของ hardware ที่เรามีครับ จนถึงจุดที่เครื่องที่เรามีเดิม ๆ ไม่สามารถสนองความต้องการของ software ได้ เราเลยเจออาการหน่วง หรือทำงานได้ด้อยลงกว่าที่เคยตอนสมัยใช้โปรแกรมเวอร์ชั่นเก่า ๆ ครับ ซึ่งจะมีสองทางเลือกในการแก้ปัญหานี้ครับ

การแก้ปัญหาระยะยาว : ทราบข้อจำกัดของ hardware เราครับ และพยายามไม่อัพเดท software ให้เกินจากเครื่องที่เรามีครับ (โปรแกรมบางตัวผมในเครื่อง ก็ไม่ได้อัพเดทเป็นเวอร์ชั่นใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงตรงนี้ครับ) โดยผมยึดหลักว่า เครื่อง hardware นึง ไม่น่าจะลงโปรแกรมใหม่เกิน 3-4 ปีครับ

การแก้ปัญหากระยะสั้น - กลาง : อัพเดท software ตามปรกติ จนถึงจุดที่เริ่มมีปัญหา แล้วแก้ด้วยการอัพเกรด hardware ตาม ซึ่งแบบนี้จะดีตรงที่ใช้โปรแกรมใหม่ ๆ ได้มากขึ้น แต่ไม่ช้าไม่นาน ถ้าเรายังอัพเดท software ไปเรื่อย ๆ เราก็จะเจอข้อจำกัดเดิมอยู่ดีครับ (คือถึงจุดที่ hardware เดิมมีไม่พอกับที่ software ต้องการ) และความต้องการบางอย่างของ software ก็อาจจะมีอยู่ใน hardware ที่เอามาใส่เครื่องเราไม่ได้ก็มีครับ (เช่นต้องการการ์ดจอ spec อื่น ที่เอามาใส่เครื่องเราไม่ได้ หรือ แรมที่เกิน maximum ของเครื่องเราครับ)

สำหรับอาจารย์ ใช้เครื่องปี 2008 นับมาถึงตอนนี้ก็หลายปีแล้ว ลงโปรแกรมใหม่ ๆ แทบจะไม่ได้แล้ว (โปรแกรมส่วนใหญ่ รองรับเครื่องย้อนหลังไม่น่าจะเกิน 3-4 ปีครับ) และก็น่าจะถึงเวลาอัพเกรด hardware ใหม่ครับ

เครื่องเดิมก็เก็บเอาไว้สำรอง หรือเอาไว้เล่นอินเตอร์เน็ทที่บ้าน แทนครับ

#9
od2504's picture
1077
posts

ขอบคุณมากครับ

ได้ทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ปรับวิธีคิดของผมได้มากครับ
จะว่าไป สมัยผมเด็กๆ ความรู้สึกนี้ไม่ค่อยมีนะครับ เพราะเราจะเปลี่ยนตอน "เครื่องพัง" ตัวชี้การเปลี่ยนชัดเจนมาก เพราะ Software ตอนนั้นไม่ได้พัฒนารวดเร็วมากเหมือนวันนี้ ศักยภาพ Hardware ก็รองรับไปนาน

แต่เดี๋ยวนี้ ก็อย่างที่คุณก็อกว่า Software ไปเร็วมาก Hardware ก็วิ่งตามกัน และที่ตามหลังมาไกลๆ ก็ User ตาดำดำอย่างผมนี่เองครับ
สรุปว่า ปัญหาสุดท้ายของผมคือ การหาตังค์มาซื้อเครื่องใหม่นี่เองครับ

#10