สรุปApple Media Event 1 September 2010

Satoshi_Zousan's picture
78
posts

บทสรุปสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการอ่านทุกรายละเอียด
แอปเปิ้ลได้ยกผลิตภัณฑ์เครื่องเล่นMP3แบบพกพาตระกูลiPodใหม่
- iPod Shuffle ที่มีการปรับขนาดให้เล็กลง คงความสามารถเดิมเอาไว้แต่มีการติดตั้งปุ่มควบคุมที่เป็นเอกลักษณ์ของiPodไว่้ด้วย ยิ้มปากกว้าง
- iPod Nano ที่ทิ้งปุ่มClick Wheel ไปแต่หันมาใช้Touch Screenแทน ยิ้มปากกว้าง
- iPod Touch มาพร้อมกล้องหน้าหลังสำหรับทำVideo Chat ผ่านWiFi Network
ทั้งหมดเปิดจองแล้วและจะเริ่มจัดส่งสู่ร้านค้าในสหรัฐช่วงสัปดาห์หน้า
สำหรับ Apple TV ได้มีการดึงฮาร์ทไดร์ฟทิ้งไป แล้วลดราคาลงตามที่มีกระแสข่าวออกมาครับ ยิ้มปากกว้าง

ที่นี่ มาดูรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ใหม่ทีละตัวกันครับ

1. The Fourth Generation iPod Shuffle

  • มาพร้อมรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส เล็กลงกว่าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าในรุ่นที่ 2
  • มาพร้อมFeatureอย่าง VoiceOver: เพียงกดปุ่ม VoiceOver ชื่อเพลงและชื่อศิลปินของเพลงที่ฟังอยู่จะถูกระบุออกมา
  • บอกชื่อ playlist และเตือนเวลาแบตเตอรี่อ่อนได้เหมือนกับรุ่นที่ 3
  • เล่นเพลงต่อเนื่อง 15 ชั่วโมง
  • มีหลายสีให้เลือกเช่นเคย
  • มาพร้อมความจุ 2GB สนนราคาที่ 49 USD
    สรุป: 4th Gen iPod Shuffle แทบไม่ต่างอะไรกับยุคที่ 3 เพียงแต่มีขนาดเล็กลง และมีปุ่มเอกลักษณ์ของiPodกลับอีกครั้ง

2. The Sixth Generation iPod nano

  • มีการเปลี่ยนแปลงด้านดีไซน์อย่างเห็นชัดเจนที่สุดเมื่อเทียบกับ 5 รุ่นก่อนหน้านี้
  • มีลักษณะเหมือน iPod Shuffle ขนาดยักษ์ที่เขี่ยClick Wheelทิ้ง แล้วมีหน้าจอTouch Screenขนาด 1.5 นิ้วมาแทน แจ่ม
  • มีคลิปให้ผู้ใช้หนีบไว้กับเสื้อผ้าเพื่อการพกพาแสนสะดวก
  • มีขนาดเล็กลง 46% และเบาขึ้น 42% สามารถเล่นเพลงต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ยิ้ม
  • ยังไม่มีข้อมูลที่แน่นอนว่า nano รุ่นใหม่นี้ใช้ระบบปฏิบัติการใด แต่ส่วนติดต่อผู้ใช้ของ Nano นั้นคล้ายกับที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS อย่างiPhoneมาก
  • Homescreen ของ Nano นั้นไม่ใช่เมนูตัวเลือกอีกต่อไป แต่เป็นiconซึ่งผู้ใช้สามารถจรดนิ้วบนหน้าจอเพื่อใช้งานโปรแกรมได้เลยเหมือน iPhone เช่น สามารถปาดนิ้วจากซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้ายเพื่อใช้งานสกรีนได้ หรือกดค้างเพื่อกลับไปยังหน้าโฮมสกรีน และสามารถปาดนิ้วขึ้นลงบนล่างเพื่อเลือกรายการที่ต้องการ อ่ะ แน่นอน
  • ขณะเล่นเพลง หน้าจอจะแสดงภาพปกอัลบัม สามารถกดหน้าจอเพื่อสั่งเล่นหรือหยุดเพลง มีปุ่มควบคุมระดับเสียงด้านข้างเช่นเดิม
  • ไม่มี Accelerometer เพื่อการกลับด้านหน้าจอแนวตั้งแนวนอนตามองศาการถือเครื่องแบบอัตโนมัติ แต่ผู้ใช้สามารถจรดนิ้วบนหน้าจอแล้วหมุนตามองศาการมองได้ตามต้องการ
  • ไม่สามารถบันทึกหรือเล่นวิดีโอได้อีก และมีวิทยุ FM
  • สายเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ที่ Nano จะต้องใช้สายแบบเดียวกับ iPhone
  • รุ่น 8GB สนนราคาที่ 149 USD
    รุ่น 16GB สนนราคาที่ 179 USD


3. The Fourth Generation iPod touch

  • เหมือน iPhone 4 มากเข้าไปทุกที หัวเราะร่วน
  • มาพร้อมหน้าจอเทคโนโลยี Retina Display เหมือนกัน อ่ะ แน่นอน
  • ใช้ A4 Chip
  • มี Gyroscope แบบ 3 แกน
  • มีกล้องหน้าหลังเหมือนกัน (ความละเอียดกล้องจะอยู่ที่เพียง 960x720 น้อยกว่า iPhone 4 มากนัก) ทำให้สามารถรองรับVideo Chat "FaceTime" ผ่านWi-Fi Network
  • บางกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
  • "FaceTime" ทำให้ผู้ใช้ iPod Nano รับสายโทรVideo Chatได้โดยใช้ข้อมูลe-mail address เสียงพูดจะถูกส่งผ่านไมโครโฟนที่ติดไว้ปลายเครื่อง iPod Touch เท่ากับผู้ใช้ไม่ต้องซื้อHeadphoneเพิ่มเติม
    Steve Jobs ระบุว่าตลาดเป้าหมายคือตลาดเกมโดยยกตัวอย่างว่าอุปกรณ์เกมอย่างNintendo และ Sony ว่าได้รับความนิยมถล่มทลายจนสามารถครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 50% ของตลาดMobile Devices โดยให้ตัวเลขว่าผู้ใช้ iPod Touch นั้นดาวน์โหลดเกมและอื่นๆไปมากกว่า 1.5 ล้านครั้งเลยทีเดียว
  • iPod Touch รุ่น 8GB สนนราคาที่ 229 USD
    รุ่น 32GB สนนราคาที่ 299 USD
    รุ่น 64GB สนนราคาที่ 399 USD

4. The Second Generation Apple TV

  • มีขนาดเพียง 1 ใน 4 ของรุ่นแรก เป็นกล่องสีดำดูน่าค้นหาไม่มีฮาร์ทไดร์ฟ
  • ด้านหลังเครื่องมีกลุ่มพอร์ตเชื่อมต่อซึ่งน้อยกว่ารุ่นแรกมาก
  • มีข้อแม้ว่าผู้ใช้ต้องมี TV ความละเอียดสูงที่รองรับภาพ HDMI เท่านั้นเพราะ Apple TV มีพอร์ตต่อวิดีโอออกเป็น HDMI พอร์ตอย่างเดียว
  • มีAudio port, Eternet port และUSB port ทั้งหมดสามารถต่อตรงกับTVได้เลยไม่ต้องผ่านคอมพิวเตอร์ สามารถแสดงวิดีโอความละเอียด 720p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที จากรุ่นเดิมที่เล่นด้วยความเร็ว 24 เฟรมต่อวินาที การควบคุมเครื่องทำได้โดยรีโมทคอนโทรล
  • ผู้ใช้จะสามารถทำได้เพียงเช่าภาพยนตร์ใหม่ในราคา 4.99 USD สำหรับรายการทีวีในสหรัฐฯจากสถานีอย่าง ABC, Fox, Disney Channel และ BBC America นั้นให้เช่าในราคา 99 Cent ไม่ต้องใช้ฮาร์ทไดร์ฟในเครื่องเพราะการเช่าภาพยนตร์และรายการทีวีบนอุปกรณ์ของแอปเปิลนั้นใช้การStreaming
  • ให้บริการคลุมถึงวิดีโอบน YouTube และภาพยนตร์จาก Netflix เช่นเดียวกับบริการเก็บและชมภาพถ่ายออนไลน์อย่าง Flickr ด้วย
  • สนนราคาเครื่องลดลงเหลือ 99 USD (จาก 229 USD) ตะลึง 2

    เสร็จสิ้นการแนะนำผลิตภัณฑ์ก็มีการแสดงดนตรีจากวงColdplay มีการพูดแซวสไตล์การนำเสนอของSteve Jobsด้วย แต่ที่ฮาและน่าดีใจกว่านั้นคือศิลปินท่านนี้ ใส่เสื้อที่มีภาษาไทยครับ...ตัวอักษรสีแดง ผมจำไม่ได้ว่าเขียนว่าอะไรบ้าง แต่ประมาณเรื่องพาหะโรค อะไรทำนองนี้ครับ เห็นแล้วผมยิ้มและหัวเราะก๊ากเลย หัวเราะร่วน หัวเราะร่วน หัวเราะร่วน

    Credits
    www.apple.com
    www.manager.co.th/Cyberbiz

ikok's picture
10285
posts

ขอบคุณนะครับ

เดี๋ยวผมไปทำ link จากหน้าแรกมาให้

ขอบคุณอีกครั้งนะครับ มีความสุข ~

#1
rsakchai's picture
396
posts

มีคนมาแปลและสรุปเป็นภาษาไทยให้...ดีจัง

สงสัยคุณก๊อกและคุณนิคจะได้ผู้ช่วยดูแลเวปคนใหม่แล้วหละครับ
ยิ้มปากกว้าง ยิ้มปากกว้าง ยิ้มปากกว้าง ยิ้มปากกว้าง ยิ้มปากกว้าง

#2
ikok's picture
10285
posts

5555

เอาเลยครับ ใครอยากฝึกภาษาช่วยลงข่าวผมยินดีครับ ยิ้ม ผมเปิดห้องนี้เอาไว้ให้แจ้งข่าวแล้วก็รวมถึงตรงนี้ด้วย ไม่จำเป็นต้องรอผมเขียนข่าวอย่างเดียวครับ

เพราะว่า....

ข่าวจะช้าไป 1 วัน หัวเราะร่วน หัวเราะร่วน

#3
Satoshi_Zousan's picture
78
posts

แฮะๆ

ยินดีครับ ได้ฝึกฝนด้วย จริงๆรายละเอียดยังมีอีกมากอย่างที่พี่ๆน้องๆได้ชมกันไป
ผมพยายามคัดเอาแต่ที่รายละเอียดที่สำคัญและจัดรูปแบบให้อ่านเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน
แต่ ดูๆไปแล้วก็ยังเยอะอยู่ดีแฮะ แห่ะ ๆ 1 แบบของพี่ก็อกอ่านง่ายกว่า ยิ้ม

#4
keep_kim's picture
379
posts

มี iTunes 10 มาด้วยนะคับ

มี iTunes 10 มาด้วยนะคับ มีความสุข

#5
Guitarpicking's picture
89
posts

ขอบคุณจ้า

ช่วยคนไม่เก่งอังกฤษได้ดีเชียวหล่ะ

ปล.คนเล่นเปียโนในงาน บนเสื้อเค้ามีภาษาไทยด้วยชิมิคะ????

#6
Satoshi_Zousan's picture
78
posts

ใช่ครับ

เขียนแบบนี้ครับ
บรรทัดแรก ตัวอักษรภาษาอังกฤษสีดำ THE FLAMING LIPS ตกใจ-1
บรรทัดที่สอง ตัวอักษรภาษาไทยสีแดง สัตว์ที่เป็นพยาธิ พาหะนำโรค ตะลึง 2
และก็มีภาพสกรีนเป็นรูปทหารครับ สีโทนส้มๆดำๆ

เห็นตอนแรกอาการแบบนี้ ตะลึง 2 ก่อนจะกลายเป็น หัวเราะร่วน
ดีใจที่ภาษาไทยของเราได้ออกถ่ายทอดสดบนเว็บไปทั่วโลกครับ

#7
Continental.max@gmail.com's picture
130
posts

เห็น iPod Nano

เห็น iPod Nano ใหม่แล้วเครียดเลยครับ จะซื้อรุ่นเก่าเก็บไว้ใช้ดีไหมเนี่ยย - -

ลองจินตนาการดูเวลาใช้ มันเป็นทัชสกีนแบบนี้ก็ต้องหยิบขึ้นมาแตะๆ ถูๆ ถ้าไม่หยิบก็ต้องมองจอ ไม่งั้นแตะไม่ถูก คงจะถือลำบากด้วย เท่าที่ดูลุงสตีฟถือ

ไม่เหมือนคลิกวีลที่กดๆถูๆหมุนๆขณะยังอยู่ในกระเป๋ากางเกงได้ แถมมีเสียงคนบอกให้อีก ไม่ต้องหยิบเครื่องออกมา ผมว่าตัวเก่าใช้สะดวกกว่านะ - -

แต่ซัฟเฟิลนี่สมควรมีปุ่ม ตัวก่อนหน้านี้ใช้ยากม๊ากๆ - -

#8
rsakchai's picture
396
posts

ผมมองว่านี่คือจุดแข็งของลุงจ็อป.....Touch screen

ดูจากใน vedio clip ที่นำมา present และอยู่ใน web Apple ไม่น่าจะ Touch ยากมากนะครับ และที่สำคัญการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์...ดูน่ารักดี...เหมาะแก่การซื้อของฝากให้กับกิ๊ก....สาวสาว...สวยสวย...มากมายครับ
อ่ะ แน่นอน อ่ะ แน่นอน อ่ะ แน่นอน อ่ะ แน่นอน อ่ะ แน่นอน

#9
Satoshi_Zousan's picture
78
posts

8GB=149 USD, 16GB=179 USD

ก็น่าจะประมาณ 13,800 กับ 16,800 เยน ตามลำดับครับ
จากที่เคยถามสาวๆญี่ปุ่น เขาบอกว่าระบบTouch Screenมันสะดวกดี ยิ้ม แต่ใช้ยากจัง สงสัย? ตกใจ-1 โกรธ
ถ้าเป็นไปได้ เอาแบบพวกโซนี่อันเล็กๆขนาดเท่านิ้วโป้งก็พอแล้ว...
สาวไทยล่ะครับ ชอบแบบไหน? ยิ้มปากกว้าง

#10